ทัวร์ปากีสถาน โดยมืออาชีพ เที่ยวปากีสถาน แพคเกจทัวร์ปากีสถาน

เป็นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียด

กรุณาใส่ข้อความ …

โปรแกรมทัวร์ปากีสถาน นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่รักความท้าทายเก็บเกี่ยวประสบการณ์บนเส้นทางหลวงรถยนต์ที่สูงที่สุดในโลก และผู้ที่รักธรรมชาติต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรสร้าง เทือกเขายอดหิมะสูงสลับซับซ้อน ธารน้ำแข็งขนาดมหึมาทั้งสีขาวและสีดำ แม่น้ำใสหลายสายจากเทือกเขายอดปกคลุมด้วยหิมะ เสน่ห์ความงามแบบล้ำลึกลับที่รอคอยผู้มาเยือนมาสัมผัสด้วยตนเอง ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์นี้ ขนาบไปด้วย 3 เทือกเขาที่ยิ่งใหญ่ คือเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาฮินดูกูจ และเทือกเขาคาราโครัม จึงทำให้การเดินทางบนถนนสายนี้งดงามยิ่งนัก...ท้ายสุดนี้รอท่านมาค้นหาความลับของชาวเมืองฮุนซ่า เมืองที่ได้ชื่อว่า ผู้คนมีอายุยืนยาวที่สุดในโลกด้วยกัน

ทัวร์ปากีสถาน 12 วัน 10 คืน โดยการบินไทย TG

วันแรก กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด  B-  L-  D-
16.00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ประตู 2-3 เคาท์เตอร์การบินไทย Row D
19.00 น. เหินฟ้าสู่อิสลามาบัด ด้วยเที่ยวบิน TG 349
22.10 น.  ถึง อิสลามาบัด หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พักใกล้กับสนามบิน
  พักที่โรงแรม Hill View Hotel ระดับ 3++ ดาว(มี Wifi)

 

วันที่สอง อิสลามาบัด – คาราโครัมไฮเวย์ – เมืองชีลาส B1  L1 D1
เช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
  นำท่านเดินทางสู่ เมืองชีลาสซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10ชั่วโมงผ่าน Babuser Pass ซึ่งบางช่วงของถนนสายนี้ มีระดับความสูงถึง4,500 เมตร เพื่อเดินทางเชื่อมต่อ ถึง สายคาราโครัมไฮเวย์ เส้นทางถนนที่สูงที่สุดในโลก เส้นทางนี้เชื่อมประเทศจีนและปากีสถานโดยจะขับผ่านเทือกเขาคาราโครัม ไปจนสุดเขตแดนที่ที่ราบคุนจิราบ ในระดับความสูงที่ 4,693 เมตร (15,397 ฟุต) เหนื อระดับน้าทะเล จากการวัดระดับโดย SRTM และGPS ผ่านKaghan Naran Valleyระหว่างทางชมความงามของทะเลสาบและความเขียวชอุ่มของป่าไม้ที่ยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ วันนี้จะนั่งรถระยะไกล (ไม่บินภายในประเทศเนื่องจาก โอกาสที่เครื่องบินมีโอกาสยกเลิกบินถึง 70 % เพราะก่อนถึงสนามบินมีภูเขาสูง 7,000-8,000 เมตรล้อมรอบก่อนลดระดับลง หากอากาศปิดก็เป็นการยากที่จะนาเครื่องบินลง) และถ้าหากเราตรวจสอบว่าเส้นทาง Naran ไฮเวย์ สามารถเดินทางไปได้ ไม่มีหิมะตกค้างในช่วงจุดสูงสุดของเส้นทางคือ 4,170 เมตร เราจะใช้เส้นทาง Naran ไฮเวย์ นั้นแทน เพราะระยะทางสั้น กว่าทางสายคาราโครัมไฮเวย์ ถึง 2-4 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางมีการซ่อมแซมถนนเป็นระยะๆ บางช่วงถนนดี บางช่วงถนนขรุขระ
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้อาจจะรับประทานอาหารกลางวันช้าหน่อย แนะนำให้เตรียมพกขนมว่างติดตัวไปด้วยระหว่างเดินทาง ทางทีมงานเราจะมีขนมว่างไว้ค่อยบริการ
  เดินทางต่อสู่เมืองชีลาส เมืองชีลาส เป็นเมืองผ่านที่เป็นวุดแวะพักก่อนจะเริ่มการเดินทางท่องเที่ยวอย่างแท้จริงในวันรุ่งขึ้น เมืองชีลาสมีแม่น้าสินธุไหลผ่าน แม่น้าสินธุ เป็นแม่น้ายาวที่สุดในปากีสถาน และเป็นแม่น้าที่ใหญ่ เป็นอันดับที่ 21 ของโลก หล่อเลี้ยงชาวปากีสถาน ต้นกำ เนิดของ แม่น้าอยู่บริเวณที่ราบสูงทิเบต ใกลกับทะเลสาบมานาซาโรวาร์ ความยาวรวมของแม่น้ามีความยาว 3,180 กิโลเมตร และมีการไหลของน้ามากกว่า 1,165,000 ตร.กม. อารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ เป็นอารยธรรมในยุคสาริด (ประมาณ 2500 - 1900 ก่อนคริสตกาล) ถือกา เนิดขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้าสินธุในประเทศอินเดีย และปากีสถานในปัจจุบัน ถือเป็นอารยธรรมยุคแรกๆของโลก ซึ่งนักโบราณคดีเรียกว่ายุคฮารัปปัน วัฒนธรรมเก่าสุดเริ่มจากเมืองอัมรี (Amri) บริเวณปากแม่น้าสินธุ อายุ 4,000 B.C. พบเครื่องปั้นดินเผาระบายสี คล้า ยของเมโสโปเตเมียเมืองฮารับปา และโมเหนโจ –ดาโร อายุ 2,600 – 1,900 B.C. เมืองชุคาร์ และจันหุดาโร อายุ 1,000 – 500 B.C.
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Shangrila Chilas Hotel (มี – Wifi ระดับอ่อนมาก)

 

วันที่สาม ชีลาส – นากาพาบัท – กิลกิต – กาคุช B2 L2 D2
เช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
  เดินทางสู่ เมืองกิลกิต Gilgit เมืองกัลกิต เป็นเมืองเอกของปากีสถานแถบเหนือของกัลกิต – บัลติสถาน เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางสายไหมในอดีตที่พุทธศาสนาเผยแผ่มาจากเอเชียใต้ และ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ จุดเริ่มแห่งการเดินทาง Trekking Himalayan ranges และ จุดเริ่มตน้ ของการท่องเทียวคาริมมาบัด หรือ Hunza Valley หรือ การท่องเที่ยว Fairy Meadows หรือ เส้นทางสู่ ชายแดนปากีสถาน – จีนที่ราบสูง คุนจีราบ ระหว่างทางท่านจะไดสั้มผัสกับ แนวเทือกเขาคาราโครัมอันยิ่งใหญ่ แวะชมและถ่ายภาพที่จุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา 3 แห่ง คือ เทือกเขาคาราโครัม เทือกเขาฮินดูกูช และ เทือกเขาหิมาลัย โดยมีแม่น้ากิลกิตและ แม่น้าสินธุ ไหลมาบรรจบกันก่อเกิดเป็นแม่น้าสินธุ อีกครั้ง เทือกเขาคาราโครัม เทือกเขาตั้ง อยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยกับเทือกเขาฮินดูกูช บริเวณเทือกเขาคาราโครัมเป็นเขตติดต่อกันสามประเทศไดแก่ ปากีสถาน จีน และอินเดีย จุดสุงสุดของเทือกเขาคือ ยอดเขาเคทู K2 อยู่บริเวณประเทศจีน และปากีสถาน เทือกเขาฮินดู เป็นเทือกเขาที่ขยายตัวต่อจากเทือกเขาคาราโครัมไปทางตะวันตก มีความยาวประมาณ 800 กิโลเมตร อยู่บริเวณรอยต่อของประเทศปากีสถานกับประเทศอัฟกานิสถาน มียอดเขาสูงที่มากกว่าระดับ 7,000 เมตร ถึง 20 ยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาติร์อิชเมียร์ในประเทศปากีสถาน เชิงเขาฝั่งตะวันตกของเทือกเขาฮินดูกูช มีทะเลสาบกลุ่มหนึ่ง แอ่งน้าใสต่อเนื่ องกันเป็นสายตามแนวแม่น้าแบนด์-เออามีร์ ณ ระดับความสูงเกือบ 3,000 เมตร เทือกเขาหิมาลัย เป็นเทือกเขาในทวีปเอเชีย ที่แยกอนุทวีปอินเดียทางทิศใต้ ออกจากที่ราบสูงทิเบตทางทิศเหนือ เป็นที่ที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เช่น ยอดเขาเอเวอเรสต์ และยอดเขากันเจนชุงคา (Kanchenjunga) และยังประกอบดว้ ยยอดเขาที่มีความสูงมากกว่า 7,200 เมตร (23,600 ฟุต) มากกว่าหนึ่งร้อยยอด ในทางศัพทมูลวิทยา คา ว่า หิมาลัยมาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง "ที่อยู่ของหิมะ" (หิม + อาลย) เป็นจุดกำเนิดของระบบแม่น้าที่สำคัญของโลกหลายสาย เช่น แอ่งแม่น้าสินธุ และแอ่งแม่น้าคงคา-พรหมบุตร แม่น้าสาละวิน และแม่น้าโขง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
  นำท่านเดินทางไปชมพระพุทธรูป Gargah Buddha เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักบนหน้าผา เป็นพระพุทธรูปในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถูกค้นพบพร้อมกับเจดีย์ 3 องค์ซึ่งสูง 400 เมตรในช่วงปี คศ..1938-1939 ห่างออกไปทางทิศตะวันตกของเมืองกัลกิต ประมาณ 10 กิโลเมตร สมควรแก่เวลาเดินทางสู่เมือง กาคุช Gakuch ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมืองกากูช เมืองเอกของอาเภอกีเซอร์ เมืองที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาที่งดงามสุดที่จะบรรยาย ตัวเมืองล้อมรอบไปด้วยภูเขา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจาก Gilgit 72 กม. เมืองหลวงของประเทศ Gilgit-Baltistan รัฐอิสระในปากีสถาน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
  พักที่โรงแรม PANORAMA HOTEL(มี WIFI) หรือ GREEN PALACE HOTEL (มี WIFI)

 

วันที่สี่ กาคุช – หุบเขากีห์เซอร์ – กูปิส B3 L3 D3
เช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
  นำท่านเดินทางเที่ยวและถ่ายภาพ ที่ กีห์เซอร์ วัลเล่ย์ Ghizer Valley ผ่านเหมู่บ้าน กูปิส Gupis โดยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัส กับต้นผลไม้ต่างๆ เช่น แอปปริคอท , เชอร์รี่ , แอปเปิ้ล สีชมพู สีขาว ทั้งหุบเขา พร้อมกับวิวสายน้ำ พร้อมแนวเทือกเขาฮินดูกูช อันยิ่งใหญ่ ถึงทะเลสาบ คาลติ Khalti Lake อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย จากนั้นไปเที่ยวและถ่ายภาพที่ พานเดอร์ วัลเล่ย์ Phandur Valley ชม ทะเลสาบ พันเดอร์ Phandur Lake อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน
  เดินทางไปยัง Phandur Valley เที่ยวชมหมู่บ้าน และ ถ่ายภาพต้นผลไม้ หลากสีสัน มากมายใช้เวลาเที่ยวประมาณครึ่งวัน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับมายัง Gupis
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Gupis Blossom inn Hotel (มี Wi-fi)

 

วันที่ห้า กูปิส – กิลกิต – ฮุนซ่า – อีเกิลเนสท์ B4 L4 D4
เช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
  นำท่านออกเดินทางจาก Gupis มายัง Hunza valley ผ่านเมืองกิลกิต
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวันที่เมืองกิลกิต
  เดินทางสู่ฮุนซ่า ระหว่างทางแวะชมวิว ธารน้ำแข็ง Rakaposhi และแวะจิบชา ที่ Rakaposhi view point จากนั้นเดินทางต่อสู่ Karimabad ถึง Karimabad นำท่านเดินถ่ายรูปในถนน main ใน คาริมมาบัด ชมป้อมปราการ Baltit fort อิสระถ่ายภาพ รอแสงเย็นกันที่ Baltit fort
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม HUNZA EAGLE’S NEST (มี Wi-Fi) โรงแรมที่อยู่สูงที่สุดของ Hunza

 

วันที่หก ชมวิวจุดชิมวิว ดุยเกอร์ - ทะเลสาบ อัตตาบัต – พาสสุ B5 L5 D5
เช้าตรู่ อิสระถ่ายภาพแสงเช้าตามอัธยาศัย โดยจุดชมวิวนี้ท่านจะสามารถเห็นยอดเขาต่างๆ มากมายรายล้อมเกือบ 360 องศา เช่น ยอดเขา ราคาโปชิ Rakaposhi , ยอดเขา เลดี้ ฟิงเกอร์ Lady Finger , ยอดเขาดิราน Diran , ยอดเขา Golden Peak , ยอดเขา Ultra I , ยอดเขา Ultra II และ ยอดเขาอื่นๆ ความสูง 6,000 – 8,000 เมตร รายล้อมหุบเขา Hunza valley สวยงามน่าประทับใจ
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
  เดินทางไป ถ่ายภาพ ธารน้ำแข็งพาสสุ Passu glacier โดยผ่าน ทะเลสาบ อัตตาบัด Attabad แวะถ่ายภาพทะเลสาบ และ ล่องเรือชมทะเลสาบ อัตตาบัด Attabad ประมาณ 30-45 นาที ทะเลสาบนี้เกิดจากแผ่นดินถล่มปี 2010 ปิดเส้นทางไหลของแม่น้าฮุนซ่า นำท่านนั่งเรือล่องทะเลสาบเปลี่ยนเป็นบรรยากาศอีกแบบที่ได้เห็นช่องเขาหิมะขาว ตัดกับทอ้งฟ้าสีฟ้าสดสวยงดงามตลอดเส้นทาง เป็นบรรยากาศที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง ทะเลสาบ อัตตาบัด Attabad ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อทะเลสาบ Gojal ตั้งแต่ทะเลสาบเกิดขึ้น มีเพียงวิธีเดียวในการข้ามทะเลสาบ โดยใช้เรือไม้ท่านั้น ต่อมามีการสร้างอุโมงค์ถนนและเปิดให้เข้าชมในเดือนกันยายน 2015 แผ่นดินถล่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2010 การถล่มทำ ให้มีผู้เสียชีวิตยี่สิบคนและปิดกั้นการไหลของแม่น้า Hunza เป็นเวลาห้าเดือน ทำให้หมู่บ้านที่อยู่บริเวณนั้นถูกน้าท่วม จึงต้องมีการอพยพโยกย้ายบ้านเรือนและผู้คนร่วม 6,000 คน หลังล่องเรือเสร็จนำท่านเดินทางต่อ ผ่านหมู่บ้าน กุลมิต Gulmit แวะถ่ายภาพ สะพานแขวน ฮุสเซนี Hussaini Suspension Bridge สมควรแก่เวลาเดินทางต่อโดยเปลี่ยนเป็นรถตู้เล็กไปถ่ายภาพ ธารน้ำแข็ง Passu Glacier
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
  นั่งรถต่อไปยังจุดเริ่มเทรคไปชม Passu Glacier ระยะสั้นประมาณ 1.5 กิโลเมตร แต่คุ้มค่ากับการเดินทางมาชมธารน้ำแข็ง Passu สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับไปยัง Passu village
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม PASSU TOURIST LODGE RESORT (มี Wi-Fi)

  

วันที่เจ็ด หมู่บ้านพาสสุ - ทะเลสาบ บูทูลา – คุนเจอราบ พาส – ฮุนซ่า B6  L6  D6
เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่คุนจีราฟพาส โดยผ่านเมืองกุลมิท ระหว่างทางแวะถ่ายรูปเทือกเขาพัสสุซึ่งมีแนวเขาที่สวยงามแปลกตา แวะชมและถ่ายภาพ KHUNJERAB NATIONAL PARK โดยจะนำท่านผ่านที่สูง KHUNJERAB PASS ซึ่งเป็นช่องทางการค้าที่สูงที่สุดในโลก จุดบรรจบแห่งอารยะธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ ที่นี่คือด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก สูงจากระดับน้าทะเลกว่า 4,730 เมตร บนเมือกเขาคาราโครัม ซึ่งเดินทางตามแนวเส้นทางสายไหมโบราณที่เชื่อมเอเชียกลางสู่ยุโรป เทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ และสามารถพบเห็นสัตว์หายาก เช่นตัว Ibex หรือ แพะภูเขา Yak ที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาสูง จนถึงจุดสุดท้ายที่ด่านชายแดนระหว่าง ปากีสถาน และ จีน ก่อนที่จะออกไปยังประเทศจีนบนเส้นทางสายไหมที่ซินเกียงนาท่านถ่ายภาพวิวสวยๆ ระหว่างทาง และชายแดนจีน – ปากีสถาน สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าได้มายืนอยู่ ณ เส้นทางประวัติศาสตร์โลก เชิญท่านเล่นหิมะบนบรรยากาศเย็นฉ่ำ ถ่ายรูปกับยอดเขารายลอ้ม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ Hunza
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน
  เดินทางต่อไปเมือง ฮุนซ่า Hunza เมืองที่ประชากรมีอายุยืนที่สุดในโลก
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Hunza SERENA INN Hotel โรงแรมที่ดีที่สุดระดับ 4 ดาว Local ของ Hunza (มี Wi-Fi)

  

วันที่แปด ฮุนซ่า – นาการ์ วัลเล่ย์ – ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์ - อัลติท ฟอร์ท – คาริมาบัด B7  L7 D7
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
  เดินทางไปยัง Nagar Valley โดยอาจจะต้องเปลี่ยนเป็นรถคันเล็ก ในส่วนของฝั่ง Nagar เราจะได้เห็น Hunza valley ในอีกฝั่งหนึ่ง ถ่ายรูปกันในหมู่บ้านนาการ์วัลเล่ย์ Nagar Valley ตั้งอยู่ใกลกั้บหุบเขากิลกิต มีความสูงจากระดับน้าทะเลที่ 2,438 เมตร เคยเป็นเมืองหลวงของอดีตรัฐนากา ในอดีตเคยเป็นรัฐที่ปกครองพื้นที่โดยรอบยาวนานถึง 1,200ปีจนกระทั่งล่มสลายลงใน ค.ศ.1974 หุบเขานากา เป็นสถานที่นิยมสา หรับชื่นชมทัศนียภาพของยอดเขาโดยรอบทงั้ ยอดเขา Rakaposhi ยอดเขา Diran และอื่น ๆ กว่า 30 ยอดเขา นำท่านถ่ายภาพ ที่ ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์ Hopper Valley นำท่านชม ธารน้ำแข็ง ฮอปเปอร์ Hopper Glacier วิวระหว่างทางสวยไม่แพ้ที่อื่น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
  นำท่านชมป้อมปราการ Altit fort อิสระถ่ายภาพ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ Karimabad 
นำท่านช็อปปิ้ง ที่ Karimabad Barza
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Hunza SERENA INN Hotel โรงแรมที่ดีที่สุดระดับ 4 ดาว Local ของ Hunza (มี Wi-Fi)

  

วันที่เก้า ฮุนซ่า – เบแชม B8 L8  D8
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
  เดินทางสู่เมือง เบแชม วันนี้ เดินทางไกล ผ่านเมือง ชีลาส 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม Shangrila Chilas
  เดินทางต่อไปยังเมืองเบชาม (ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง) 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Hilton Beshaam (มี Wi-Fi)

 

วันที่สิบ เบแชม – ตักศิลา – อิสลามาบัด B9  L9  D9
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
  เดินทางต่อชมเมืองโบราณ ตักศิลา (Taxila ) เมืองแห่งศิลปวิทยาการในอดีต ตักศิลา เป็นชื่อเมืองอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนื อของรัฐปัญจาบ เป็นมหาวิทยาลัยและเป็นศูนย์กลางของศิลปวิชาการ ในอดีตของอินเดียตงั้ แต่ก่อนพุทธกาลมีสา นักอาจารย์ทิศาปาติโมกข์ สั่งสอนศิลปวิทยาต่าง ๆ แก่ศิษย์ที่มาเล่าเรียนในแถบดินแดนชมพูทวีปบุคคลสา คัญและมีชื่อเสียงหลายท่านที่สา เร็จการศึกษาจากที่แห่งนี้ อาทิ เช่น พระเจ้าปเสนทิโกศล หมอชีวกโกมารภัจจ์ และองคุลีมาลในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชนชาติเฮพธาไลต์ (Hephthalite) ได้ยกทัพมาตีอินเดียและทำลายพระพุทธศาสนา ทำให้เมืองตักศิลาพินาศสาบสูญแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
  ชมเมืองโบราณ ตักศิลา (Taxila ) เป็นเมืองที่ได้รับมรดกโลก อายุกว่า 3000 ปี เมื่อเปิดตำราพุทธศาสนา เช่น ชาดกและพระสูตรต่างๆ หรือแม้แต่นิทานพื้นบ้าน คาดว่าชื่อเมือง ตักศิลา น่าจะเป็นที่เคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง โดยเมืองดังกล่าวโดดเด่นในฐานะแหล่งศิลปวิทยาการของชมพูทวีปยุคโบราณ ดังจะเห็นจากการที่มีบุคคลสำคัญในพุทธศาสนาหลายท่านเป็นบัณฑิตจากสถาบันแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ท่านชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์ประจำพระองค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเจ้าปเสนธิโกศล ผู้ปกครองแคว้นโกศล ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์อัครศาสนูปถัมภกของพุทธศาสนา หรือแม้แต่มหาโจรองคุลีมาล ผู้ซึ่งต่อมาดวงตาได้เห็นธรรมและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ชื่อเสียงในด้านนี้เองทำให้ตักศิลากลายเป็นเสมือนเมืองในตำนาน ปัจจุบันตักศิลาอยู่ในเขตราวัณปิณฑีของมณฑลปัญจาบของปากีสถาน และอยู่ห่างจากกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวง ออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียงประมาณ 30 กิโลเมตร แม้ว่าปัจจุบันตักศิลาอาจเป็นเพียงตำนาน แต่ความสำคัญในฐานะเป็นจุดนัดพบทางวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก รวมถึงความรุ่งเรืองในด้านศิลปวิทยาการและความสำคัญทางด้านพุทธศาสนา จากนั้นนำท่านถ่ายภาพที่มัสยิดไฟซาล Faisal Mosque เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอิสลามาบัด สร้างเสร็จในปี 1986 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี ลักษณะคล้ายเต็นท์กลางทะเลทราย อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรม
  พักที่โรงแรม Hill View Hotel (มี Wi-Fi)

 

วันที่สิบเอ็ด อิสลามาบัด – ละฮอร์ B10 L10 D10
เช้า  รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม 
  เดินทางสู่เมืองละฮอร์ ระหว่างทางนำท่านเที่ยวชมเหมืองเกลือ Salt Mine เป็นเหมืองเกลือขนาดใหญ่ ที่ในอดีต พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เคยมาชมเหมืองเกลือแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
  เดินทางต่อสู่เมืองละฮอร์ นำชม พิพิธภัณฑ์ละฮอร์ ที่เก็บสมบัติต่าง ๆ ตั้งแต่ยุคพระเจ้าอโศกมหาราช มีเสาอโศกประดับในพิพิธภัณฑ์ด้วย และที่สำคัญ คือ รูปแกะสลัก พระพุทธเจ้าในปางบำเพ็ญทุกข์กิริยา ที่สลักจากหินชนวนสีดำ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จากนั้นเดินทางสู่ ละฮอร์ฟอร์ท เป็นป้อม และมัสยิดที่สร่างในยุคเดียวกับ เรดฟอร์ท และจามามัสยิด ในกรุงเดลี ประเทศอินเดีย ซึ่งทำจากหินทรายสีแดง และหินอ่อนเช่นเดียวกับทัชมาฮาล และปิดท้ายของวันด้วยการชมพิธิเชิญธงลง เพื่อปิดชายแดน วากาบอร์เดอร์ ระหว่าง ปากีสถาน และ อินเดีย เชิญท่านร่วมส่งเสียงเชียร์ ประเทศปากีสถาน ในฝั่งที่คณะเรานั่งอยู่ ท่านจะได้เห็นเสียงเชียร์ของทางฝั่งอินเดียด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในย่าน Food Street ที่มีสีสันคึกคักของเมืองละฮอร์
20.00 น.  เดินทางสู่สนามบินเมืองละฮอร์ เพื่อเช็คอินเคาน์เตอร์สายการบินไทย เที่ยวบิน TG 346 (23.55)
23.55 น.  เหินฟ้าสู่กรุงเทพมหานคร

 

วันที่สิบสอง ละฮอร์ – กรุงเทพมหานคร B-  L-  D-
06.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

 

 ***************************

 

ทัวร์ปากีสถาน 12 วัน 10 คืน โดยการบินไทย TG
กำหนดการเดินทางทัวร์ปากีสถาน ปี 2566 โรงแรม พักห้องคู่ พักเดี่ยว
จ่ายเพิ่ม
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน
กันยายน วันที่  2* - 4*      
ตุลาคม วันที่ 2* - 4*      
พฤศจิกายน วันที่ 2* - 4*      
ธันวาคม วันที่  3* / 4*      

 

ทัวร์ปากีสถาน 12 วัน 10 คืน โดยการบินไทย TG
กำหนดการเดินทางทัวร์ปากีสถาน  ปี 2567 โรงแรม พักห้องคู่ พักเดี่ยว
จ่ายเพิ่ม
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน
มกราคม วันที่ 2* - 4*      
กุมภาพันธ์ วันที่  2* - 4*      
มีนาคม วันที่   2* - 4*      
เมษายน วันที่   2* - 4*      
พฤษภาคม วันที่   2* - 4*      
มิถุนายน วันที่   2* - 4*      
กรกฎาคม วันที่   2* - 4*      
สิงหาคม วันที่  2* - 4*      
กันยายน วันที่   2* - 4*      
ตุลาคม วันที่   2* - 4*      
พฤศจิกายน วันที่   2* - 4*      
ธันวาคม วันที่   2* - 4*       

 

อัตรานี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรุ๊ป) ชั้นประหยัด โดยสารการบินไทย (TG)
- โรงแรม ที่พัก จำนวน 10 คืน พร้อมอาหารเช้า
- ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ และน้ำดื่มระหว่างทัวร์ วันละ 2 ขวด
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
- ค่ารถปรับอากาศ ในการนำเที่ยวตามรายการ
- บริการไกด์ท้องถิ่นจากปากีสถาน ภาษาอังกฤษ และหัวหน้าทัวร์คนไทย กรณีกรุ๊ป 15 ท่านขึ้นไป
- ค่าประกันการเดินทาง คุ้มครองอุบัติเหตุ 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท ( สำหรับอายุ 70 ปีขึ้นไป คุ้มครอง 50%)
- ค่าวีซ่าประเทศปากีสถาน

อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น – คนขับรถบัส – หัวหน้าทัวร์คนไทย รวมทั้งหมด 83 USD ต่อท่าน
- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง และ การชำระเงิน
1. กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 45 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระเงินจองงวดแรก 30,000 บาท / ท่าน และส่งมอบเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่าตามที่กำหนด
2. ส่วนที่เหลือชำระก่อนการเดินทาง 45 วัน เนื่องจากจะต้องใช้ในการออกตั๋วเครื่องบินและเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันการเดินทาง ในการประกอบการพิจารณาวีซ่าของทางสถานทูต

***** เมื่อท่านจองทัวร์ และ ชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้ว *****

กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง
ยกเลิก 45 วัน (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน) ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า)
ยกเลิก 30-44 วัน  (สงกรานต์-ปีใหม่ 45-59 วัน) หักค่ามัดจำ 50,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
ยกเลิก 26-30 วัน (สงกรานต์-ปีใหม่ 41-44 วัน) หัก 50 % ของราคาทัวร์ + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)
ยกเลิก 1- 25 วัน (สงกรานต์-ปีใหม่ 40 วัน) บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน 100%


***หากผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์หักเงิน 100% ***

หมายเหตุ : คณะส่วนตัว หรือ กรุ๊ปเหมา เมื่อตกลองจองทัวร์แล้ว ไม่สามารถทำการยกเลิกได้ เนื่องจากเป็นคณะที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะกลุ่ม ต้องชำระเงิน 100 %

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

หมายเหตุ :
1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการ หรือเปลี่ยนแปลงราคาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน, โรงแรมที่พัก, ภูมิอากาศ, ภัยธรรมชาติ, การก่อการร้าย, การนัดหยุดงาน ฯลฯ
3. เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน สายการบินล่าช้า ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
4..เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
5. ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู6. กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตฯเพื่อให้อยู่ในดุลพินิจของสถานฑูตฯ เรื่องวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของเอกสารวีซ่า
7. หากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบินหรือหากมีเหตุการณ์ประการใดที่เกิดขึ้นจากสายการบินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์หน้างานที่เกิดขึ้นจริง

**หมายเหตุ ** กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือความปลอดภัยเป็นหลัก และรายการ-ราคาทัวร์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสายการบินโดยจะยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ”

ตั๋วเครื่องบิน
ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่บริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หากมีการยกเลิกการเดินทาง (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น) ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น

โรงแรม- ห้องพัก
ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง ( TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้ หรือ อาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการได้ และบางโรงแรมไม่มีลิฟท์บริการ ภายในห้องพักของโรงแรม ไม่มีกาต้มน้ำ และ ไม่มีน้ำดื่มไว้บริการ และ ในบางเมือง ไฟฟ้า จะมีการดับเป็นช่วง ๆ 
ในกรณีที่มีการจัดงานประชุม หรืองานเทศกาลตามฤดูกาล เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองหรือ ปรับเปลี่ยน ประเภทของโรงแรมที่พัก เพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
- กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
- วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
- สำหรับน้ำหนักของกระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน ทางสายการบินอนุญาตให้น้ำหนัก 7 กิโลกรัม

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด

*** กระเป๋าใบใหญ่ที่ต้องการโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบิน ห้ามใส่ Power Bank ***

สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีความกว้าง ( 9.75 นิ้ว ) + ยาว ( 21.5 นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำ ไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากกระเป๋าใหญ่เกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business)
ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่ รวมถึง Powr Bank ด้วย เนื่องจากความปลอดภัย

*** กรณีกระเป๋าใบใหญ่ หรือ กระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการชำรุด หรือสูญหาย ในระหว่างการท่องเที่ยว บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบหรือชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่านเอง ***

*** เมื่อท่านจองทัวร์ และ ชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความแล้ว ***